หลอกลวงกฎหมาย, แก๊งคู่แข่ง, และผู้นำทางการเมือง
Bootlegger: Moonshine Empire เป็นเกมเล่นตามบทบาท เกมนี้เป็นเกมผู้เล่นคนเดียวที่พาผู้เล่นเข้าสู่ ยุคห้ามขายสุราในปี 1920 ซึ่งแอลกอฮอล์ถูกห้ามและโลกใต้ดินของการลักลอบขายวิสกี้เจริญรุ่งเรือง นวนิยายประวัติศาสตร์เชิงโต้ตอบนี้เขียนโดย Drew Morrison ทำให้คุณอยู่ในรองเท้าของนักลักลอบขายวิสกี้หนุ่มจากชนบท เพนซิลเวเนีย ที่กระตือรือร้นที่จะสร้างอาณาจักรที่ผิดกฎหมาย.
Bootlegger: Moonshine Empire เป็นเกมที่ อิงจากข้อความทั้งหมด ทำให้ผู้เล่นต้องพึ่งพาจินตนาการของตนในการสร้างเรื่องราวขณะที่พวกเขาตัดสินใจ ที่สำคัญ ที่กำหนดชะตากรรมของพวกเขา ในเกมนี้คุณเริ่มต้นจากเล็กน้อย ลักลอบขายสุรากับเพื่อนไม่กี่คนในโรงนา.
จากนักวิ่งวิสกี้สู่หัวหน้าแก๊ง
ใน Bootlegger: Moonshine Empire เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะต้องเผชิญกับ การตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิต—คุณจะร่วมมือกับหัวหน้าแก๊งเพื่อขึ้นสู่ระดับใน โลกใต้ดินของนครนิวยอร์ก หรือคุณจะเล่นเกมที่อันตรายกับกฎหมาย? เกมนี้ให้คุณมีความยืดหยุ่นในการเล่นเป็น ชาย, หญิง, หรือไม่ระบุเพศ และการตัดสินใจของคุณมีผลกระทบต่อทุกอย่างตั้งแต่ความสัมพันธ์ไปจนถึงพลศาสตร์อำนาจภายในองค์กรของคุณ.
คุณจะ จัดการคนงาน, เจรจากับนักการเมือง, และ หลบหนีคู่แข่งหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการไล่ล่ารถที่ดุเดือด เรื่องราวขับเคลื่อนด้วยการตัดสินใจนับร้อย และแต่ละเส้นทางนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน คุณอาจกลายเป็นนายกเทศมนตรีของบ้านเกิด, ดาวบรอดเวย์, หรือแก๊งสเตอร์ที่น่ากลัวพร้อมอาณาจักรที่ขยายไปทั่วนิวยอร์ก ความเสี่ยงสูง และทุกการตัดสินใจอาจนำไปสู่ โชคลาภ, ชื่อเสียง, หรือการตายที่ไม่คาดคิด.
เกมทั้งหมดเต็มไปด้วย อ้างอิงทางประวัติศาสตร์, การเมืองที่ซับซ้อน, และปัญหาทางศีลธรรม ทำให้แต่ละการเล่นเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร อย่างไรก็ตาม ไม่มี โหมดผู้เล่นหลายคน หรือโหมดร่วมมือ การขาดภาพ อาจไม่ดึงดูดผู้เล่นที่ชอบเกมกราฟิก บางผู้เล่นอาจพบว่ารูปแบบที่มีข้อความมากเกินไปนั้นหนักหน่วง เกมนี้อาจมี จังหวะช้า โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นมากขึ้น.
โชคลาภ ชื่อเสียง หรือความตาย
ประสบการณ์การเล่นเกมโดยรวมของ Bootlegger: Moonshine Empire นั้นดื่มด่ำและเต็มไปด้วยความลึกซึ้งทางเรื่องราว ผู้เล่นจะต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากซึ่งมีผลต่อทิศทางของเรื่องราว รูปแบบข้อความช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ไม่รู้จบ และฉากประวัติศาสตร์นำมาซึ่งความรู้สึกของความเป็นจริงในทางเลือกที่คุณทำ ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะขึ้นสู่อำนาจผ่านอาชญากรรม หรือการทูต เกมนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด ความตื่นเต้น และความไม่แน่นอน.